ในยุคที่ผู้ต่างมองหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ที่ช่วยในการดูแลสุขภาพ คุณนี ชาลิสา Wellness & Lifestyle Director มีมุมมองแนวคิดที่แตกต่าง เพราะเธอเชื่อในพลังของธรรมชาติบำบัด และพระอาทิตย์เป็นหนึ่งในพลังบำบัดที่ไม่เพียงช่วยเยียวยาและปลอบประโลมจิตใจคุณนีในวันที่เหนื่อยล้า แต่แสงของดวงอาทิตย์ยังสะท้อนอารมณ์และความคิดอันลึกซึ้ง และยังนำทางคุณนีไปค้นพบแสงอันทรงพลังที่ส่องสว่างภายในตัวตนเธอเอง
Leaping Towards the Inner Sun
ออกเดินทางตามหาแสง ETERNAL SUNSHINE ไปกับคุณนี-ชาลิสา วีรวรรณ เวลเนสไดเร็กเตอร์ชื่อดัง ผู้อยู่เบื้องหลังทริปเอ็กซ์คลูซีฟ “Leaping towards the Inner Sun”
ETERNAL SUNSHINE ในความหมายของคุณคืออะไร
แสงสว่างที่ไม่มีวันดับ ด้วยความรัก ความมั่งคง และความจริงแท้ ภายในตัวพวกเราทุกคน เป็นแสงที่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็สามารถสว่างอยู่แบบนั้นได้ และยังสามารถส่งเป็นพลังงานที่ดี เป็นแสงสว่างให้กับผู้อื่นได้อีกด้วย
คุณคิดว่าใครคือ Sun-bearer ในชีวิตคุณ
คุณแม่ค่ะ คุณแม่จะส่งพลังบวกมาให้ตั้งแต่เด็กมาจนถึงทุกวันนี้ คุณแม่เป็นคนที่มีอารมณ์ขันที่สุด เวลาเราอยู่ด้วยกัน เราสองคนจะหัวเราะ ปล่อยมุกกันตลอดเวลา พลังบวกของคุณแม่คือความเป็นธรรมชาติในตัวของเขาเอง คุณแม่เลี้ยงดูนีด้วยความรัก ความเข้าใจ และที่สำคัญที่สุดคือความไว้ใจ เมื่อเราได้รับพลังเหล่านี้ มันทำให้เรารู้สึกถึงแสงสว่างที่ส่องมาหาเราอยู่เสมอ
นอกจากแสงอาทิตย์จะให้ความอบอุ่นแล้ว คุณคิดว่าแสงอาทิตย์มีผลกับความรู้สึกหรืออารมณ์ด้านอื่นๆ ของคุณอีกไหม
นีผูกพันกับพระอาทิตย์มาตั้งแต่สมัยเรียนประถม มีชื่อที่เพื่อนเรียกว่า The Sun เพราะชอบมัดผมหางม้าสูงๆ เปิดหน้าผาก เวลาเดินไปไหนเพื่อนจะแซวว่าแสบตา ทำให้ความผูกพันแรกที่มีให้กับพระอาทิตย์คือพระอาทิตย์กับเราเป็นหนึ่งเดียวกัน พอโตขึ้นเรายิ่งเข้าใจว่าพระอาทิตย์มีผลกับอารมณ์และความรู้สึกของเราตามการโคจรของเขา โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก แสงยามเช้า จะรู้สึกถึงการเริ่มต้นใหม่เป็นพลังงานสดใส อยากทำอะไรใหม่ๆ ในขณะที่แสงยามเย็นจะมีความตกผลึก ลุ่มลึก ให้เราได้สะท้อนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน แล้วจากนั้นก็เริ่มใหม่อีกครั้งในวันรุ่งขึ้น เหมือนการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป แบบนี้ไปเรื่อยๆ
อย่างตัวนีเองจะต้องออกไปรับแสงอาทิตย์ทุกวันไม่งั้นจะรู้สึกจิตใจไม่ผ่องใส นีว่าแสงอาทิตย์มีผลมากกับความเบิกบานในใจของพวกเรา"
ช่วงเวลาที่คุณรู้สึกหมดไฟหรือหมดพลัง คุณจุดไฟนั้นขึ้นมาใหม่อย่างไร
นีเชื่อในเรื่องของธรรมชาติบำบัดและพระอาทิตย์ก็เป็นหนึ่งในพลังงานที่นีใช้บำบัดกับตัวเอง เวลาที่เรารู้สึกเหนื่อยล้าเป็นเพราะพลังงานของเรากระจัดกระจายและส่งออกนอก ผ่านการทำงานที่ต้องเจอผู้คนที่หลากหลายหรือต้องคอยแก้ปัญหาต่างๆ ที่เข้ามา วิธีรีชาร์จของนีคือจะเข้าหาธรรมชาติ เช่นการเข้าป่าหรือพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติสวยๆ นีชอบออกกำลังกายเบาๆ รับแสงอาทิตย์ในตอนเช้า ทำ grounding บนพื้นหญ้า หาดทราย และนั่งสมาธิช่วงอาทิตย์อัสดง ที่สำคัญต้องเงียบ สงบ เพราะการอยู่คนเดียวกับธรรมชาติเป็นการรวมพลังงานในตัวเองได้ดีและรวดเร็วที่สุด
จากประสบการณ์การเดินทางที่ผ่านๆ มา คุณคิดว่าแสงอาทิตย์ที่ไหนสวยที่สุด และพิเศษกว่าที่อื่นอย่างไร
แสงอาทิตย์ที่สวยที่สุดมักจะเป็นแสงที่เห็นโดยบังเอิญแบบไม่ได้ตั้งใจ เพราะใจเราไม่ได้คาดหวัง ทำให้เข้าใจว่าแสงอาทิตย์ เขาสวยที่สุดอยู่เสมอในแบบของเขาในทุกที่ ทุกเวลา แต่มันขึ้นอยู่กับเราว่าจะคาดหวังกับความสวยนั้นมากน้อยแค่ไหน
แต่ถ้าต้องเลือกแสงอาทิตย์ที่ประทับใจที่สุดก็คือที่ขั้วโลกเหนือในกรีนแลนด์ เพราะดวงอาทิตย์ที่นั่นใหญ่มากและแสงที่ลอดผ่านภูเขาน้ำแข็งสูงลิบ สะท้อนประกายระยิบระยับ ยังติดอยู่ในความทรงจำว่าครั้งหนึ่งในชีวิต เราได้เห็นแสงอาทิตย์ที่ทรงพลังขนาดนี้
หลังจากทำกิจกรรมในทริปนี้แล้ว คุณคิดว่าคุณได้ค้นพบอะไรเกี่ยวกับตัวเองที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน
ทริปนี้เป็นทริปแรกที่รู้สึกว่าตัวเองในฐานะ co-host คาดหวังกับพระอาทิตย์ เพราะการเดินทางครั้งนี้ขึ้นอยู่กับเขา เราคิดว่าพระอาทิตย์น่าจะรักและเมตตาเราอยู่บ้าง น่าจะส่องแสงสวยๆ มา ไม่ทำให้เราผิดหวัง เพราะทั้งชีวิตไม่ว่าเดินทางไปที่ไหน จะเห็นแสงอาทิตย์สวยเสมอจนรู้สึกว่าตัวเองโชคดี
วันแรกของทริปฟ้ากลับไม่เปิด ถึงจะเป็นแค่ชั่วโมงสั้นๆ และวันที่เหลือพวกเราก็ได้เห็นแสงทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงาม แต่นีรู้สึกว่าเหตุการณ์วันแรกกำลังบอกอะไรกับเรา จนได้คำตอบกับตัวเอง ว่าทริปนี้ธีมคือ “Ignite Your Eternal Light” และพระอาทิตย์ได้สอนให้เห็นว่า แม้แต่แสงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างแสงอาทิตย์ก็ยังเป็นแสงภายนอกที่ไม่สำคัญเท่ากับแสงสว่างภายในใจของพวกเราเอง ใจที่น้อมรับความไม่แน่นอนของธรรมชาติในทุกสถานการณ์ได้คือใจที่จะเต็มไปด้วยแสงสว่างอยู่เสมอ และนีค้นพบว่านีได้ผ่านบททดสอบนี้
มีอะไรที่คุณอยากบอกคนอื่นๆ เกี่ยวกับแคมเปญ Eternal Sunshine
อยากให้ทุกคนเข้ามาใช้เวลาทำความรู้จักกับ Eternal Sunshine ที่ประเดิมแคมเปญด้วยทริปตามหาแสงอาทิตย์ โดยการผสมผสานหลายศาสตร์เข้าด้วยกัน มีทั้งความลึกซึ้ง ความหมายที่อยู่เบื้องหลัง ที่มาของกลิ่น ซึ่งทริปการเดินจากทางภายในครั้งนี้ไม่เคยมีที่ไหนทำมาก่อน อยากให้ Eternal Sunshine เป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คนว่าพวกเราต่างมีแสงสว่างภายในตัวเอง และตัวเราสามารถจะจุดประกายแสงนั้นได้เองเสมอ
"เพียงเข้าใจความเป็นไปของธรรมชาติ พวกเราทุกคนจะมีแสงสว่างภายในใจอยู่เสมอ”